ดอยลังกาหลวง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติขุนแจ ครอบคลุมบริเวณรอยต่อ 3 จังหวัดคือ
เชียงราย - ลำปาง - เชียงใหม่ ติดเขตจังหวัดเชียงใหม่บริเวณพื้นที่ของอำเภอดอยสะเก็ดตามเส้นทางที่มุ่งไปยังจังหวัดเชียงราย อุทยานแห่งชาติขุนแจมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ในส่วนของดอยลังกาหลวงมียอดดอยอื่นๆ ที่อยู่ในเส้นทางเดินป่าเส้นทางเดียวกันคือ ดอยผาโง้ม( 1,764 เมตร ) , ดอยลังกาน้อย( 1,600 เมตร ) และดอยลังกาหลวง( 2,031 เมตร ) เปรียบเทียบแล้วก็เหมือนกับดอยหลวงเชียงดาวที่มียอดดอยหลวงเชียงดาวสูงสุดและยังมียอดดอยอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายยอด ชื่อที่เรียกมาจากยอดดอยที่สูงที่สุด อย่างดอยลังกาหลวงนี้ก็เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแห่งนี้ มีความสูงถึง 2,031 เมตร สูงเป็นอันดับ 6 ของยอดเขาสูงเมืองไทย ลักษณะป่าจะเป็นป่าดิบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์และยังเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำลาว
จุดเด่นของเส้นทางเดินป่าเส้นนี้คือ
การเดินตามแนวสันดอยไปตลอดเส้นทางได้พบได้เห็นป่าสภาพต่างๆ มีทั้งป่าดิบเขา ป่าสน
และทุ่งหญ้าบนดอยสูง ป่าที่นี่มีความหลากหลายทำให้นักเดินทางไม่รู้สึกเบื่อหน่าย ตลอดเส้นทางเดินบนสันดอยจะมองเห็นภาพวิวที่สวยงาม
ดอกไม้ก็มีมาก มีทั้งดอกกุหลาบขาวดอยลังกาที่มีลักษณะเฉพาะจะออกดอกสวยงามในฤดูหนาว
ดอกหรีดมีเยอะมาก นอกจากนี้ยังมีดอกไม้สวยแปลกตาอีกหลายชนิด
ภาพซ้ายคือเส้นทางเดินสู่ดอยลังกาที่ท้าทาย
เดินบนสันเขาเกือบตลอดเส้นทาง ชมวิวสวยได้ตลอดทาง
เส้นทางเดินขึ้นดอยลังกาหลวง
ดอยลังกาหลวง มีเส้นทางเดินป่าที่ไม่ย้อนกลับทางเดิม
เริ่มจุดหนึ่งแล้วเดินไปจุดสิ้นสุดอีกจุดหนึ่ง
โดยจะเริ่มเดินจากสถานีทวนสัญญาณหรือมักจะเรียกกันว่า สถานีเรดาร์
เดินไปจบเส้นทางที่บ้านแม่ตอนหลวง หรือจะเริ่มเดินจากทางขึ้นบ้านแม่ตอนหลวง
มาสิ้นสุดเส้นทางที่สถานีเรดาร์ก็ได้
เส้นทางเดินสถานีเรดาร์แยกจากถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข
118 บริเวณ
หลักกิโลเมตรที่ 52-53 ส่วนทางสายบ้านแม่ตอนหลวงจะแยกบริเวณหลักกิโลเมตรที่
27
ระยะทางเดินทั้งสิ้น 17 กิโลเมตร
ใช้เวลาเดินทาง 3-4 วัน
แล้วแต่จะว่าจะรีบเร่งหรือว่าจะเดินเพื่อชมธรรมชาติไปเรื่อยๆ
บนสันดอยมีจุดพักแรมเป็นจุดๆ และมีแหล่งน้ำซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
ตลอดเส้นทางเดินป่า 17 กิโลเมตรมีสิ่งที่น่าสนใจตลอดเส้นทาง
ดูแผนที่ประกอบ
ก.ม.ที่ 1-ก.ม.ที่ 2
เส้นทางเดินประมาณ 2 กม.
เป็นที่ราบสำหรับภูเขาสูงชัน
เดินไต่ระดับความสูงตามสันเขาจิกจ้องอาจสร้างความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าให้กับนักเดินทางพอสมควร
แต่มีจุดหยุดพักผ่อนเป็นระยะ
ต่อเมื่อเดินไต่ระดับไปยังจุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆอากาศจะเริ่มเย็นสบาย
มองเห็นภูมิประเทศอันเป็นเขาสลับซับซ้อน และผืนป่าอันกว้าง
โดยมีบ้านแม่ตอนหลวงซ้อนตัวอยู่อย่างเงียบท่ามกลางหุบเขา
ในช่วยเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศจะหนาวเย็นโดยเฉพาะบริเวณยอดดอย เป็นฤดูกาลที่ดอกกุหลาบพันปีออกดอก
จะเริ่มเบ่งบานตาม 2 ข้างทางตามหุบเขาด้านล่าง
ต้นซากุระออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
จากจุดสูงสุดของดอยจิกจ้องเดินต่อไปอีกไม่ไกลนักจะบรรจบกับดอยลังกาน้อย
ก.ม.ที่ 2-ก.ม.ที่ 3
ดอยลังกาน้อยเป็นยอดเขาหัวโล้นสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ
1,600 เมตร
บนยอดดอยปราศจากไม้ใหญ่
เนื่องจากกระแสลมที่พัดค่อนข้างแรงประกอบกับทางธรณีวิทยาของดอยลังกาน้อยเป็นหินแกรนิต
รากของต้นไม้ใหญ่ จึงยากที่จะกัดเซาะผ่านหินลงไปได้ลึก
เส้นทางดินขึ้นจากด้านล่างสู่ยอดดอยยาวประมาณ 300 เมตร
ค่อนข้างสูงและลาดชัน เป็นจุดที่อันตรายที่สุดของทางเดิน
นักท่องเที่ยวต้องอาศัยการปีนป่ายไปตามโขดหิน
ใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ในทิศทางตรงกันข้าม
หากวันใดที่ฟ้าเปิดไม่มีเมฆฝนก็จะสามารถมองเห็นตัวเมือง เชียงใหม่และดอยสุเทพได้อย่างชัดเจนทางด้านทิศใต้
นักท่องเที่ยวมักจะคางแรมคืนแรกที่ดอยลังกาน้อย
เนื่องจากใกล้แหล่งน้ำและยอดดอยอันเป็นจุดชมวิว
ก.ม.ที่ 3-ก.ม.ที่ 4
จุดตั้งแค้มป์พักแรมบริเวณดอยลังกาน้อยมีอยู่ 3 แห่ง แห่งแรกและแห่งที่ 2 ห่างจากยอดดอยลงไปประมาณ 200 เมตร
มีแหล่งน้ำซับที่ไหลออกมาจากใต้หินมีชื่อเรียกว่า “ท้องลังกาน้อย”
แต่ไม่มีน้ำไหลตั้งแต่เดือนธันวาคม-เมษายน
แต่จะมีเพียงน้ำขังเท่านั้น
ก.ม.ที่ 4-ก.ม.ที่ 5
ถัดออกไปอีกประมาณ 200 เมตร เป็นจุดพักแรมแห่งที่ 3
ซึ่งอยู่บริเวณหุบเขาดอยลังกาน้อยมีธารน้ำไหลตลอดปี
ก.ม.ที่ 5-ก.ม.ที่ 6
บริเวณนี้เป็นจุดที่มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดมีร่องรอยของสัตว์ป่าอาศัยอยู่อย่างชุกชุมบริเวณใกล้แหล่งน้ำเช่น
หมูป่าเก้ง หมี และนกนานาชนิด บริเวณดอยลังกาน้อย
นอกจากเป็นจุดชทวิวพระอาทิตย์ขึ้น-ตกและทะแลหมอกแล้ว การส่องนกเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ
ก.ม.ที่ 6-ก.ม.ที่ 9
จากดอยลังกาน้อยสู่ดอยลังกาหลวงเส้นทางเดินเริ่มสะดวกสบาย
เดินลัดเลาะไปตามสันเขามีช่วงเดินขึ้นลงเขาไม่มากนัก ผ่านป่าสนป่าดงดิบชื้น
ตลอดจนสองข้างทางมีพันธุ์ไม้นานาชนิด
ยิ่งเดินเข้าใกล้ดอยลังกาหลวงมากเท่าใดสภาพป่าเริ่มสมบูรณ์ขึ้นเรื่อยๆ
ดอยลังกาหลวงห่างจากดอยลังกาน้อย 6 กม. ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3-4 ชั่วโมงดอยลังกาหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานฯ
นักเดินทางส่วนใหญ่มัดเลือกตั้งแค้มป์พักแรมที่เชิงเขาด้านล่างห่างจากยอดดอยประมาณ
800 เมตร ซึ่งเป็นป่าดงดิบเขาเหมาะสำหรับใช้เป็นที่กำบังลมหนาวที่ค่อนข้างแรงอีกทั้งไม่ไกลจากแหล่งน้ำด้านล่างนัก
ก.ม.ที่ 9-ก.ม.ที่ 12
จากดอยลังกาหลวงไปสู่ดอยผาโง้มหรือดอยแม่โถประมาณ
3 กม.
กม.ที่ 10 จะผ่านสันเขากุหลาบพันปีซึ่งจะเริ่มผลิดอกราวเดือนธันวาคม-มกราคม
ขึ้นอยู่กับสภาพความเย็นหากปีใดอากาศหนาวเย็นเร็ว กุหลาบพันปีก็จะผลิดอกเร็วกว่าปกติดอยผาโง้มหรือดอยแม่โถ
เป็นยอดเขาหินที่มีลักษณะโง้มตามชื่อสูงจากระดับน้ำทะแลประมาณ 1,764 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากดอยลังกาหลวง ประมาณ 3 กม.
ทางด้านทิศตะวันตก พื้นที่ราบด้านบน ยอดดอยผาโง้มมีน้อย
จึงไม่เหมาะแก่การพักแรมค้างคืนบนยอดดอย
เหมาะสำหรับเป็นจุดชมวิวและชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก
จากที่พักเส้นทางเดินขึ้นและลงค่อนข้างลื่นและลาดชันทางเดินค่อนข้างเล็กคล้ายกิ่วสันดาบ
ในฤดูฝนการเดินขึ้นและลงจะยากลำบากมาก ต้องใช้ความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น
ก.ม.ที่ 12-ก.ม.ที่ 17
จากดอยผาโง้มถึงดอยสันยาว หรือสถานีทวนสัญญานประมาณ
5 กม.
ต้องเดินไต่เขาลงสันเขาเป็นส่วนใหญ่สภาพภูมิประเทศเป็นป่าดิบเขาที่มีความสมบูรณ์ไปจนสิ้นสุดเส้นทางเดินป่าที่สถานีทวนสัญญาณของการสื่อสารแห่งประเทศไทยที่ดอยสันยาวซึ่งเป็นจุดที่รถยนต์สามารถเข้าไปจอดรับได้ถือได้ว่าเป็นจุดสิ้นสุดของการเดินทางลุยป่าดอยลังกาหลวง
จุดแรก เราก้อมองเห็น สถานีเรดาร์ที่เราเพิ่งจากมา 2 กม.
ดอยลังกาหลวง มีจุดเด่นในเรื่องของเส้นทางเดินที่ท้าทายและยาวไกล
แต่เป็นทางไกลที่ไม่น่าเบื่อหน่ายเพราะตลอดเส้นทางมีสภาพป่าที่แตกต่างกัน
ตลอดจนภูมิประเทศที่ต่างกันในแต่ละดอยทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจไม่เบื่อหน่าย
นอกจากดอยลังกาจะมีสภาพป่าเป็นป่าดิบเขาแล้ว ดอยลังกายังมีป่าโบราณหรือป่าดึกดำบรรพ์อีกด้วย
ท้ายของเส้นทางเดินที่ดอยลังกาน้อยสภาพป่าจะเปลี่ยนไปเป็นป่าสนเขา มีต้นสนคล้ายๆ
ภูกระดึงแต่ว่าสนที่นี่จะขึ้นตามแนวหน้าผาดูน่าทึ่งมากกว่าที่อื่นๆ
และท้าทายให้เราเดินเข้าไปชม
อาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก ที่ดอยลังกาหลวง
บนเส้นทางเดินป่าสายนี้ท่านสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้หลายจุด
ทั้งนี้เป็นเพราะว่าเราเดินอยู่บนสันดอย
จุดพักแรมก็หลบเข้าไปบริเวณป่าในหุบเขาเบื้องล่าง
เวลาจะชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกเพียงเดินขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จุดชมพระอาทิตย์ที่น่าสนใจคือ
บริเวณบน ดอยผาโง้ม บริเวณสันดอยก่อนถึงยอดดอยลังกาหลวง
และบริเวณยอดดอยลังกาน้อย ที่สูงเด่นไม่มีต้นไม้มาบดบังทัศนียภาพ
ก่อนขึ้นดอยผาโง้ม
ดอยผาโง้ม
นอกจากวิวสวยแล้ว ดอยลังกายังมีพรรณไม้ดอกสวยงามหลายชนิด ที่โดดเด่นก็คือ
กุหลาบขาวดอยลังกา ดอกมีขนาดเล็ก สีสวยงาม
จะเริ่มออกดอกตั้งแต่ฤดูหนาวไปจนถึงเดือนมีนาคม นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้อีกหลายชนิดซึ่งจะออกดอกในช่วงฤดูแล้ง
ดอกหรีดดอยลังกามีมากบริเวณทุ่งโล่งบนสันดอย
และยังมีดอกไม้สวยอีกหลายชนิดซึ่งสามารถพบเห็นได้ตลอดเส้นทางเดิน
ดอกกุหลาบขาวดอยลังกา
ทัศนียภาพดอยลังกาหลวง ดอยลังกาน้อย
เช้าตรู่บนดอยลังกาหลวง มองเห็นเมืองแม่ขะจาน ลิบๆ
เช้าที่ดอยลังกาหลวง
ดอยลังกาน้อย
ภาพหมู่ บนดอยลังกาหลวง
สิ่งอำนวยความสะดวก
ดอยลังกาหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ บนดอยมีแต่ภูเขากับต้นไม้
การเที่ยวบนดอยลังกาหลวงเป็นลักษณะเที่ยวแบบเดินป่าตั้งแค้มป์พักแรม
โดยที่นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเต็นท์เครื่องนอน
และอาหารไปให้พร้อม การแบกสัมภาระขึ้นดอยลังกาหลวงจะมีลูกหาบไว้บริการ
โดยจะต้องแจ้งความต้องการล่วงหน้าเพื่อให้ทางอุทยานจัดหาลูกหาบไว้พร้อมในวันเดินทาง
หากสนใจ ติดต่อได้ที่ อุทยานแห่งชาติขุนแจ ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ. เวียงป่าเป้า จ. เชียงรายระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยว สบายๆ 4 วัน 3 คืน หรือแบบลุยๆ หน่อยก็ 3 วัน 2 คืน
ก่อนจาก ขอมอบมิวสิควีดิโอ ดอยลังกา ให้ดูเล่น นะครับ